หนังรางวัลออสการ์

หนังรางวัลออสการ์ รางวัลออสการ์เป็นอีกหนึ่งรางวัลที่ผู้สร้างภาพยนตร์ทุกคนต้องการคว้ามาครอง สร้างความบันเทิงให้กับทุกคนด้วย 10 หนังออสการ์ที่รวบรวมมาครบทุกแนว ตั้งแต่ผจญภัย บู๊ การันตีคุณภาพและมิตรภาพชนิดที่ดูแล้วไม่ผิดหวัง คุณไม่จำเป็นต้องนั่งในกระท่อมเพื่อทำใจให้สบายที่บ้านและเตรียมข้าวโพดคั่ว เราทำรายการนี้ร่วมกัน ถือได้ว่าเป็นรางวัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและเป็นความฝันของคนในวงการภาพยนตร์ทั่วโลก รางวัลอันทรงเกียรตินี้นำเสนอโดย Academy of Motion Picture Arts and Sciences ซึ่งเป็นองค์กรที่เชี่ยวชาญด้านภาพยนตร์ (AMPAS) ที่ผ่านการตรวจสอบและมอบรางวัล เราได้แบ่งรางวัลออสการ์ออกเป็นหลายประเภท เช่น การถ่ายทำภาพยนตร์ยอดเยี่ยม นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม และรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม นี่คือรางวัลใหญ่ที่สุด ซึ่งมอบให้กับภาพยนตร์ที่ผสมผสานระหว่างการผลิต การกำกับการแสดง และบทภาพยนตร์ ที่เหมาะสมที่สุด หนังรางวัลออสการ์

หนังรางวัลออสการ์ ที่ต้องดู

  • The Godfather: Part II
    เมื่อความทะเยอทะยานในอำนาจ นำไปสู่การทรยศและความสูญเสีย ภาคต่อของภาพยนตร์ระดับตำนาน ที่กวาดรางวัลบนเวทีออสการ์มาถึง 6 รางวัล โดยในภาคนี้เป็นเรื่องราวของ Godfather รุ่นลูกที่ต่อเนื่องกับภาคแรก ที่ดอนคนใหม่ได้พยายามรักษาอำนาจและสานต่อธุรกิจของครอบครัว ด้วยการย้ายไปเปิดธุรกิจกาสิโนแห่งใหม่ในเนวาดา จนนำไปสู่การประจันหน้ากับนักการเมืองและการทรยศหักหลังจากคนใกล้ชิด อย่างไรก็ตาม เนื้อเรื่องเป็นการนำเสนอแบบคู่ขนานที่จะแฟลชแบ็กฉากสลับไปมาระหว่างยุคของผู้เป็นพ่อที่กำลังไต่เต้ามาเป็นมาเฟียที่รุ่งโรจน์และยุคของลูกที่อำนาจกำลังถดถอยลงเรื่อย ๆซึ่งแม้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะไม่มีฉากยิงกันแบบดุเดือดเลือดสาด แต่กลับเข้มข้นครบรสด้วยฉากการวางแผนที่เต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมเพื่อช่วงชิงผลประโยชน์ การรักษาอำนาจ และการแก้แค้น ที่แน่นอนว่าในโลกของเจ้าพ่อนั้นไม่มีสิ่งใดที่ได้มาโดยไม่มีการสูญเสีย โดยถือเป็นหนึ่งหนังภาคต่อที่ดีที่สุดตลอดกาล
  • The Lord of the Rings: The Return of the King
    ภาคสุดท้ายของการต่อสู้ ที่จะตัดสินชะตากรรมของมิดเดิลเอิร์ธ หนังรางวัลออสการ์ ภาคสุดท้ายที่เป็นบทสรุปของสุดยอดภาพยนตร์ไตรภาค The Lord of the Rings ที่ในภาคนี้ เป็นการหวนคืนกลับสู่บัลลังก์ราชาของ Aragorn แต่แล้วกองทัพที่รวบรวมขึ้นโดย Gandalf กำลังจะพลาดท่าเสียทีให้แก่ Sauron ที่กำลังบุกเข้าโจมตีมิดเดิลเอิร์ธ ความหวังสุดท้ายจึงตกอยู่ที่ Frodo ซึ่งกำลังเดินทางไปยังเขาเมาท์ดูมในมอร์ดอร์เพื่อทำลายแหวนร่วมกับ Sam และ Gollum แต่ยิ่งพวกเขายิ่งเข้าใกล้ภูเขาลูกนี้มากเท่าใด พลังชั่วร้ายของแหวนก็ยิ่งเข้าครอบงำ Frodo มากขึ้นทุกที จนทำให้เขาเริ่มสูญเสียความเป็นตนเองไปเป็นภาพยนตร์ดัดแปลงจากวรรณกรรมของ J. R. R. Tolkien ที่ได้รับการรังสรรค์จากผู้กำกับฝีมือดีอย่าง Peter Jackson จนสามารถการันตีคุณภาพได้ด้วยรางวัลออสการ์ 11 สาขา และทำรายได้ไปมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งชะตากรรมของมิดเดิลเอิร์ธจะเป็นอย่างไร ไปหาคำตอบกันได้ในหนังเลย
  • Joker
    จุดกำเนิดและเบื้องลึกวายร้ายตลอดกาลของ Batman อย่าง Jokerเบื้องลึกของคู่ปรับตลอดกาลของ Batman อย่าง Joker กับจุดกำเนิดที่ทำให้เขากลายเป็นอาชญากร โดย Arthur Fleck เป็นชายหนุ่มผู้รับจ้างแต่งเป็นตัวตลกแห่งเมือง Gotham ที่พบกับปัญหาในชีวิตมากมาย ไม่ว่าจะเป็น การต้องดูแลแม่ที่แก่ชราและมีโลกประจำตัว หรือความฝันในการแสดงตลกเดี่ยวที่ไม่เคยมีใครขำกับมุกตลกของเขา อีกทั้งยังถูกสังคมเหยียดหยามซ้ำ และป่วยเป็นโรคภาวะควบคุมการหัวเราะไม่ได้ ที่เมื่อเขาเครียดหรือเศร้าจะทำให้เขาหัวเราะออกมาไม่หยุด และเมื่อสังคมไม่เป็นธรรมสำหรับตัวเขาเขาจึงได้ตัดสินใจทำสิ่งที่จะเปลี่ยนชีวิตเขาไปตลอดกาล และจุดเริ่มต้นที่นำเมือง Gothamไปสู่โศกนาฏกรรมและความรุนแรงต่าง ๆ มากมาย โดยการแสดงของ Joaquin Phoenix สามารถถ่ายทอดความเจ็บปวด และความขัดแย้งในตัวละครได้เป็นอย่างดี จนทำให้สมกับรางวัลออสการ์นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม
  • Parasite
    เมื่อต้องผจญกับความเหลื่อมล้ำ เขาจึงต้องทำทุกอย่างเพื่อปากท้องภาพยนตร์ที่เรียกเสียงฮือฮาจากเวทีประกวดรางวัลออสการ์ เพราะเป็นภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศเรื่องแรกที่ได้รับรางวัล “ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม” ซึ่งเป็นรางวัลสูงสุดบนเวทีออสการ์ จากความโดดเด่นของเนื้อเรื่องที่เสียดสีปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคมได้มีเลศนัย โดยเล่าเรื่องผ่านครอบครัวคิมที่มีฐานะยากจนและกำลังตกงาน แต่ลูกชายกลับจับพลัดจับผลูได้เข้าไปเป็นครูสอนพิเศษให้กับครอบครัวเศรษฐีที่ใช้ชีวิตต่างกันราวฟ้ากับเหว จนเป็นเหตุให้ครอบครัวคิมต้องสร้างเรื่องโกหก เพื่อให้พวกตนได้เข้ามาทำงานในครอบครัวเศรษฐี ซึ่งพฤติกรรมการหลอกลวงผู้อื่นเพื่อสูบเอาผลประโยชน์ของครอบครัวคิมนี้ก็เปรียบได้กับพฤติกรรมของปรสิตตามชื่อภาพยนตร์ Parasite นั่นเอง ซึ่งภาพยนตร์มีหลากหลายอารมณ์ทั้งดราม่า ระทึกขวัญ หรือตลก จนเป็นหนังรางวัลที่ดูสนุก แต่ยังคงแฝงปรัญชาไว้ตามสไตล์ผู้กำกับชื่อดังอย่าง Bong Joon Ho
  • Green Book
    การเดินทางท่ามกลางความไม่เท่าเทียม ที่นำไปสู่มิตรภาพอันงดงามภาพยนตร์รางวัลออสการ์ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากชีวิตจริงของ Don Shirley นักเปียโนเชื้อสายแอฟริกัน-อเมริกัน ในระหว่างการเดินสายเล่นดนตรีตามรัฐทางภาคใต้ของสหรัฐอเมริกาในช่วงยุค 60s ที่ยังมีการแบ่งแยกสีผิว และมีการเหยียดผิวที่รุนแรงเกือบทั่วทั้งอเมริกา โดยเป็นการเดินทางร่วมกับ Tony Lip ชายผู้ทำหน้าที่ทั้งคนขับรถและบอดี้การ์ด ที่การเดินทางครั้งนี้มีข้อแม้ว่าสถานที่ที่จะไปต้องเป็นไปตามหนังสือ Green Book ซึ่งเป็นคู่มือรวบรวมทั้งร้านอาหาร โรงแรม หรือสถานที่ต่าง ๆ ที่เปิดต้อนรับคนผิวสี โดยเนื้อเรื่องของภาพยนตร์แสดงให้เห็นถึงมิตรภาพระหว่างสองตัวละคร ผ่านเหตุการณ์ที่มีทั้งดีและร้าย ที่มีทั้งความฟีลกู๊ดและการแฝงความตลกจากสไตล์ของผู้กำกับ ซึ่งพวกเขาจะสามารถก้าวข้ามการแบ่งแยกสีผิวที่พบเจอได้หรือไม่ และการเดินทางจะสิ้นสุดลงอย่างไร ต้องไปติดตามกันต่อในภาพยนตร์
  • Interstellar
    ภารกิจท่องอวกาศสุดอลังการ เพื่อสำรวจดาวดวงใหม่แก่มนุษยชาติการผจญภัยในห้วงอวกาศที่สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้ชมมาแล้วทั่วโลก ด้วยภารกิจของ Cooper อดีตนักบินอวกาศที่ตัดสินใจบอกลาครอบครัว เพื่อกลับไปท่องอวกาศอีกครั้งในภารกิจสำรวจดวงดาวที่จะกลายเป็นบ้านหลังใหม่ของมนุษยชาติ หลังจากที่มนุษย์ไม่สามารถอาศัยอยู่บนโลกได้อีกต่อไป ซึ่งในการเดินทางผ่านรูหนอนออกไปสู่กาแล็กซีอื่นนั้น ทำให้ทั้งเขาและทีมไม่รู้เลยว่าข้างหน้านั้นมีอะไรรอพวกเขาอยู่ และภารกิจจะสิ้นสุดลงเมื่อใด ถือเป็นอีกหนึ่งผลงานสุดสร้างสรรค์จากผู้กำกับสุดล้ำ Christopher Nolanซึ่งนอกจากเนื้อเรื่องและความอลังการจะถูกใจคอหนัง Sci-Fi แล้ว Interstellar ยังมีตรรกะและเหตุผลทางวิทยาศาสตร์มารองรับอยู่ตลอดเวลา ทำให้หนังมีความสมจริงที่น่าตื่นตาตื่นใจ อีกทั้งยังมีเรื่องราวความสัมพันธ์ของครอบครัว และได้รับ Hans Zimmer มาบรรเลงดนตรีประกอบ ที่เพิ่มอรรถรสให้กับหนัง หนังรางวัลออสการ์

บทความที่เกี่ยวข้อง